รวมเหล่านักแสดงละครเวที "สี่แผ่นดิน เดอะ มิวสิคัล"อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ หลังจากดูละครเวทีฟอร์มใหญ่แห่งปี
“สี่แผ่นดิน เดอะ มิวสิคัล” ที่บริษัท ซีเนริโอ จำกัด ภายใต้การบริหารของบิ๊กบอส
บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ นำกลับมาทำใหม่อีกครั้งในปี 2557 นี้ โดยเริ่มทำการแสดงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากในเดือน พ.ย. 2554-มี.ค. 2555 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้วที่ละครเวทีเรื่องนี้ทำการแสดงให้ผู้ชมประทับใจมาแล้วถึง 100 รอบ ซึ่งในตอนนั้น “บันเทิงไทยรัฐออนไลน์” มีโอกาสได้ไปชมมาเช่นกัน ต้องบอกเลยว่าถึงจะกลับมาทำการแสดงใหม่อีกครั้ง แต่ความประทับใจที่มีต่อละครเรื่องนี้ไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะยิ่งเพิ่มความประทับใจละครเวทีนี้เพิ่มขึ้นอีกด้วยซ้ำ
แม่พลอยวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่
คุณเปรมวัยหนุ่ม“สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล” สร้างจากผลงานวรรณกรรมสะท้อนประวัติศาสตร์ของ
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นัก ปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง ศิลปินแห่งชาติ ผู้ได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก นำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของกรุงรัตนโกสินทร์ในช่วงรัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลที่ 8 โดยถ่ายทอดผ่านเรื่องราวชีวิตของ
“แม่พลอย” หญิงสาวที่ใช้ชีวิตผ่าน 4 รัชกาล ที่ต้องเผชิญความผกผันทางการเมืองตั้งแต่การปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิ ราชย์ จนมาถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แรกเริ่มเธอได้เข้ามารับใช้ราชสำนักในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยต้องเรียนรู้ขนบธรรมเนียมในวังไปพร้อมกับช่วงเวลาที่ประเทศไทยในเวลานั้น กำลังปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยตามตะวันตก และในสมัยรัชกาลที่ 6 แม่พลอยต้องใช้ชีวิตและเติบโตผ่านยุคสมัยการนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่า อาณานิคมของชาวตะวันตกและสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งจากศึกสงครามที่เกิดขึ้นส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 7 ที่มีการเรียกร้องประชาธิปไตยและเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในเวลาต่อมา โดยนำเสนอผ่านตัวละครซึ่งเป็นลูกชาย 2 คนของแม่พลอยที่มีแนวคิดทางการเมืองแตกต่างกันสุดขั้วจนทำให้เกิดความขัด แย้งในครอบครัว ซึ่งในชีวิตของแม่พลอยนั้นนอกจากจะพบเห็นเรื่องราวต่างๆ ในบ้านเมืองมามากมายแล้ว เธอยังต้องพบการพลัดพรากจากบุคคลที่เป็นที่รักมานับไม่ถ้วน ทำให้สุขภาพของเธอแย่ลง และเมื่อแม่พลอยได้ทราบข่าวร้ายเกี่ยวกับการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล ที่ 8 เธอก็สิ้นใจจากโลกนี้ไปในวันเดียวกันนั่นเอง เพราะองค์พระมหากษัตริย์ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอได้สิ้นพระชนม์ ไปอย่างกะทันหัน
คุณเปรม-แม่พลอย วัยหนุ่มสาวการกลับมาของละครเวทีเรื่องนี้มีความแตกต่างไปจากเมื่อปี 2554 ไปบ้าง เช่น ปรับเปลี่ยนบทพูดฉากเสด็จเรียกแม่พลอยคุยเรื่องการแต่งงานกับคุณเปรมเป็นการ ร้องเพลงเพื่อถ่ายทอดความรักที่เสด็จมีต่อแม่พลอยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น, การปรับเปลี่ยนใส่รายละเอียดของฉากให้มีความสมจริงมากขึ้น, การใส่วิกผมให้ตัวละครมีทรงผมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย, การใส่สัญลักษณ์ลงไปในเสื้อผ้าเพื่อบ่งบอกคาแร็กเตอร์ตัวละครให้ชัดเจนขึ้น ฯลฯ รวมถึงในส่วนนักแสดงที่มีการเปลี่ยนนักแสดงนำไปบางส่วน อาทิ
แม่พลอย (วัยเด็ก) ได้ 2 นักแสดงรุ่นจิ๋ว
น้องว่าน-ภัทราวดี สุขโขทัย และ
น้องพายพาย-กุลรภัส พัฒนบำรุงรส มารับบทนี้ (เดิมรับบทโดย น้องพินต้า-ณัฐนิช รัตนเสรีเกียรติ),
แม่พลอย (วัยสาว) ได้นักแสดงสาวหน้าใส
จิ๊บ-เบญจณัฎฐ์ อักษรนันทน์ มารับบทนี้ (เดิมรับบทโดย มัดหมี่-พิมพ์ดาว พานิชสมัย),
อั้น (เดิมรับบทโดย ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง) ได้นักร้องหนุ่มเสียงดี
ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช มารับบทนี้,
อ๊อด (เดิมรับบทโดย สิงโต-สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี) ได้นักร้องหนุ่มคลื่นลูกใหม่เวทีเดอะสตาร์ 10
อาเมน โสตถิพันธุ์ คำลือชา มารับบทนี้ ในส่วนนักแสดงนำท่านอื่นๆ อาทิ
นก-สินจัย เปล่งพานิช, เกรียงไกร อุณหะนันทน์, รัดเกล้า อามระดิษ, กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, อาร์-อาณัตพล ศิริชุมแสง, ตี๋ ดอกสะเดา ฯลฯ ยังคงมาร่วมถ่ายทอดความสนุกแบบครบรสเช่นเดิม
แม้คุณเปรมเคยผิดพลาดมาในอดีต แต่แม่พลอยก็พร้อมให้อภัย
แม่พลอยและ 3 ลูกชาย อ้น-อั้น-อ๊อดถึงแม้การกลับมาครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ภาพโดยรวมก็สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้ไปจากเวอร์ชั่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะฝีมือในการแสดงนั้นเรียกว่าสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่าง ดี ส่วนตัวของผู้เขียนรู้สึกประทับใจในฝีมือการแสดงของเหล่านักแสดงนำทั้งหลาย อาทิ
”แม่พลอย” ที่
นก-สินจัย ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างดีเยี่ยมสมเป็นนักแสดงคุณภาพของเมืองไทย,
“คุณเปรม” ในแบบฉบับของ
กัน-นภัทร ที่มีความสดใส เจ้าชู้ มีลูกเล่นในการแสดงที่เห็นแล้วชวนยิ้มตาม,
“แม่ช้อย” ที่ได้นักร้องนักแสดงมากฝีมือ
รัดเกล้า อามระดิษ สร้างสีสันความสนุกสนานเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้เป็นอย่างดี,
“แม่พลอย” (วัยเด็ก) โดยฝีมือของ 2 นักแสดงรุ่นจิ๋วหน้าใหม่
น้องว่าน-ภัทราวดี และ
น้องพายพาย-กุลรภัส ที่ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ตัวละครได้น่ารักชวนยิ้มแล้ว เสียงร้องของทั้งคู่ถือเป็นจุดเด่นที่ได้ฟังแล้วรู้สึกชื่นชมในความสามารถจริงๆ,
“อั้น” จากฝีมือการแสดงของ
ไอซ์-ศรัณยู ที่มีความเข้มข้นเชือดเฉือนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งที่เป็นละครเวทีเรื่องแรกของเขา อีกทั้งเสียงร้องที่ดีการันตีความเป็นนักร้องคุณภาพ ส่วนนักแสดงอื่นๆ ก็ทำหน้านี้ได้ดีสมกับบทบาทที่ได้รับเช่นกัน
ความขัดแย้งเกี่ยวกับแนวคิดทางการเมืองของ อ้น-อั้น ทำให้บ้านของแม่พลอยลุกเป็นไฟ
ในเวลาที่แม่พลอยเสียใจที่สุดที่เห็นลูกชาย อ้น-อั้น ทะเลาะกันเพราะความเห็นต่างทางการเมือง อ๊อดเป็นลูกชายที่อยู่เคียงข้างคอยปลอบใจแม่เสมอต้องบอกว่าละครเวที
“สี่แผ่นดิน เดอะ มิวสิคัล” เป็นการกลับมาที่ถูกจังหวะและเวลาจริงๆ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าถึงแม้สถานการณ์ทางการเมืองของบ้านเรานั้นจะเริ่ม เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ลึกๆ แล้วทุกคนต่างรู้ดีว่า
“ความสามัคคีในชาติ” เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำให้บ้านเมืองของเรากลับมาร่มเย็นเป็นสุขอีก ครั้ง ซึ่งในละครเวทีจากวรรณกรรมสะท้อนประวัติศาสตร์เรื่องนี้เป็นละครที่ส่งเสริม ให้คนในชาติมีความสามัคคี และชี้ให้เห็นว่า
"ความแตกแยกทางความคิด" ตั้งแต่สถาบันครอบครัวไปจนถึงระดับประเทศชาติทำให้เกิดความเลวร้ายและก่อให้ เกิดผลกระทบต่างๆ มากมายเพียงใด โดยสะท้อนความคิดเห็นขัดแย้งทางการเมืองแบบสุดขั้วของสองพี่น้องต่างมารดา
อ้น-อั้น โดยอ้นยังยึดมั่นในระบอบการปกครองโดยกษัตริย์เหมือนแม่พลอย แม่เลี้ยงของตน แต่อั้นซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของแม่พลอยกลับมีความเห็นว่าประเทศไทยควรปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเหมือน ประเทศตะวันตกในเวลานั้น ถึงแม้ทั้งคู่จะมีความเห็นที่ขัดแย้งแต่ทั้งคู่ก็รักชาติบ้านเมืองไม่ต่าง กัน แต่เมื่ออั้นพบว่าผู้ร่วมอุดมการณ์แบบเดียวกับตนบางส่วนกลับใช้อุดมการณ์นี้ เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ทำให้อั้นคิดได้และยอมขอโทษอ้น พี่ชายต่างมารดาที่ตนเคยดูถูกมาตลอด แต่กว่าที่ครอบครัวของแม่พลอยจะกลับมาสมัครสมานสามัคคีได้เหมือนเดิมนั้นก็ ใช้เวลาเนิ่นนานจนสมาชิกคนในครอบครัวบางคนเสียชิวิตไปแล้ว ทั้งคุณเปรม สามีของแม่พลอยที่เป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัว รวมถึงอ๊อด ลูกชายคนเล็กที่รักแม่พลอยสุดหัวใจ แต่จากโลกไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้าย ส่วนสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้นก็มีแต่ความหดหู่เพราะต้องเผชิญทั้งภัย สงครามที่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนมากมาย ยังต้องเจอภาวะข้าวยากหมากแพง การคอรัปชั่นของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ความเห็นต่างทางการเมืองของผู้คน ฯลฯ จนกลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งครั้งใหญ่ในบ้านเมืองเวลานั้น
อ้น หทารหนุ่มรักชาติยิ่งชีพ ลูกติดของคุณเปรมที่แม่พลอยรักเหมือนลูกแท้ๆ ของตนเองแต่ถึงแม้ปัญหาในบ้านเมืองนั้นจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ผู้คนจะมีความขัดแย้งมากมายเพียงใด พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ยังทรงเป็นที่รักและที่พึ่งพิงของประชาชน ไม่เคยทอดทิ้งราษฎรของพระองค์เลยแม้แต่น้อย ดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ล้วนแล้วเป็นไปเพื่อประโยชน์สุข ของประชาชนทั้งสิ้น โดยสอดแทรกผ่านบทละครเวทีเรื่องนี้ให้ผู้ชมดูแล้วเข้าใจง่ายและซาบซึ้งในพระ มหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ซึ่งในละครเวทีเรื่องนี้ได้หยิบยกพระราชกรณียกิจที่สำคัญมากล่าวถึงหลายด้าน อาทิ
การเลิกทาส ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่พระองค์ทรงใช้เวลานานถึง 30 ปีในการดำเนินการ เพราะพระองค์ทรงทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต้องใช้เวลา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเพียงชั่วข้ามคืนได้ และพระองค์ทรงทำได้สำเร็จโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว, การก่อตั้ง
โรงพยาบาลศิริราช ในสมัยรัชกาลที่ 5 หลังเกิดอหิวาตกโรคระบาดชุกชุมอย่างหนัก ทำให้พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีโรงพยาบาลเพื่อเป็นสถานที่ใน การรักษาพยาบาลของคนไทยทุกคน, การก่อตั้ง
ธนาคารออมสิน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อปลูกฝังให้ประชาชนรู้จักออมทรัพย์และเพื่อความมั่นคงในด้านเศรษฐกิจของ ประเทศ,
การแสดงละคอนทั้งแบบเก่าและใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย อีกทั้งทรงนำวัฒนธรรมจากชาติตะวันตกบางส่วนมาใช้เพื่อปฏิรูปประเทศให้ทัน สมัยมากขึ้นตามรอยพระราชดำริของสมเด็จพระบรมชนกนาถ,
การประกาศสละราชสมบัติ ของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เพื่อเป็นการคืนอำนาจให้กับราษฎร ที่ชี้ให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณ ความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อประชาชนชาวไทย ฯลฯ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ไทยทรงทำหน้าที่
“ผู้ให้” ต่อประชาชนของพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แม่ช้อย เพื่อนสนิทของแม่พลอย ผู้สร้างสีสันให้กับคนรอบตัวมาถึงบรรทัดนี้คงต้องบอกว่า
“สี่แผ่นดิน เดอะ มิวสิคัล” สมเป็นละครเวทีฟอร์มใหญ่คุณภาพดีอีกหนึ่งเรื่องของเมืองไทย ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาติไทยผ่านตัวละครได้ซาบซึ้งและ เข้าใจง่าย อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับแสงสีเสียงและองค์ประกอบต่างๆ ที่งดงาม โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงครึ่ง (โดยประมาณ) รับรองว่าคุ้มค่ากับเงินค่าบัตรที่เสียไปแน่นอน เพราะสิ่งที่ได้กลับมามีทั้งความปลื้มปีติอิ่มเอมใจ ตลอดจนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่ทรงทำ ทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของปวงประชา ดังที่ในเนื้อเพลง
“ในหลวงของแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเวทีเรื่องนี้ได้บอกไว้ว่า...
“ในหลวงของแผ่นดิน หล่อรวมให้เม็ดดินทรายกลายเป็นแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่หยดน้ำหยาดเหงื่อพระองค์หยดลงที่ไหน ทุกข์ร้อนจะพลันสลาย ทุกข์ภัยจะไม่อาจแผ้วพานในหลวงของแผ่นดิน ทรงเป็นที่รักและที่พึ่งพิงให้เราแสนนานตั้งแต่เล็กจนโตจำได้ทุกอย่าง ใต้ร่มพระบริบาล ชาวสยามทุกคนร่มเย็นแผ่นดินนี้คือบ้าน คือแดนสวรรค์ แสนสุขใจมีทุกอย่างที่ดีเพราะใคร ฉันจะไม่ลืม”. ที่มา
ไทยรัฐออนไลน์
0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.