
นายกฯมาเลเซียเศร้า...ต้องสูญเสีย “ยาย” ภริยาคนที่สองของตา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบิน เอ็มเอช 17 ด้วย ขณะที่ รมว.คลัง ทวีตข้อความยืนยันข่าวที่ลงในหน้านสพ.มาเลย์เป็นความจริง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย นอกจากจะเผชิญหน้ากับการรับมือกับเหตุการณ์โบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส โดนยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครนแล้ว เขายังต้องสูญเสีย ยาย ภริยาคนใหม่ ของผู้เป็นตา นายนาจิบ ไปกับโศกนาฏกรรมเอ็มเอช 17 ครั้งนี้ด้วย
นายฮิชามมุดดิน ฮุนเซน รมว.กลาโหม และอดีตรักษาการรมว.คมนาคมของมาเลเซีย ซึ่งเป็นญาติของนายนาจิบ ทวีตข้อความผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ยืนยันข่าวนี้ที่รายงานในหน้านสพ.เดอะ สตาร์ ของมาเลเซียว่าเป็นเรื่องจริง
นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน(ซ้าย) และนายนาจิบ ราซัครมว.กลาโหมมาเลเซีย ยังบอกว่า ยายของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ซึ่งเป็นยายของเขาด้วยนั้น มีชื่อว่า ซรี สิติ อามิเราะห์ อยู่ในวัยชรา อายุ 83 ปี ได้โดยสารมากับเที่ยวบินเอ็มเอช 17 เพียงลำพัง จากกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยตั้งใจจะเดินทางไปยังเมืองยอร์กจาการ์ตา ของ อินโดนีเซีย แต่ต้องมาลงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ก่อน เพื่อเปลี่ยนเครื่องต่อไปยังอินโดนีเซีย
"ยายเป็นผู้หญิงที่ดีมาก เป็นคนใจดี เป็นผู้หญิงสวย เป็นคนคอยดูแลตาของเราอย่างดีเยี่ยม เราเรียกยายว่า แม่" ครอบครัวของนายกรัฐมนตรีนาจิบ เปิดเผยกับนสพ.เดอะ สตาร์
ถามไถ่ชาวมาเลเซีย ซึ่งต้องสูญเสียญาติ และคนในครอบครัวจากโศกนาฏกรรม เอ็มเอช 17ทั้งนี้ นางซรี สิติ อามิเราะห์ เป็นชาวมาเลเซีย เชื้อสายอินโดนีเซีย โดยเป็นภริยาคนที่สองของนายโมฮัมหมัด โอมาร์ ผู้เป็นตาแท้ๆ ของนายนาจิบและนายฮิชามมุดดิน โดยนายนาจิบ อายุ 60 ปี เป็นลูกชายของแม่ ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ นายฮิชามมุดดิน จึงทำให้นายนาจิบและนายฮิชามมุดดิน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ส่วนสาเหตุที่ยายของนายกฯนาจิบจะไปเมืองยอร์กจาการ์ตานั้น ก็เพื่อต้องการร่วมในพิธีเทศกาลอิด อัล ฟิตร์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของศาสนาอิสลาม เนื่องจากเป็นวันสิ้นสุดของเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิมทั่วโลก
ที่มา : thairath.co.th
0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.